ตอนที่ 14 ให้น้ำเกลือแกหนึ่งถ้วย
เยว่อ๋องถอนสายตา ไม่นานเท่าไร่ ก็มีองค์รักษ์สองคนรีบรุดมา “เจอนายท่านแล้ว ข้าน้อยมาสาย ขอนายท่านโปรดลงโทษ”
เยว่อ๋องก้มหัวลง มองเชือกแดงในมือเบื้องหน้า เส้นด้ายบิดเป็นเกลียวเหมือนพระจันทร์เดือนเสี้ยว ด้านล่างมีกระดิ่งเงินสองอัน เสียงกระดิ่งกระทบกันทำให้เกิดความน่าหลงใหลเป็นพิเศษ “ไปตรวจสอบ หมู่บ้านเซี่ยะเยี่ยน!” บังอาจเอามีดเขาไป ช่างกล้าหาญจริงๆ
“รับทราบ”
“อะยา นังหนูหยุนเหยา เธอออกไปทำอะไรมา?” ป้าหยางเห็นมูหยุนเหยาชายกระโปรงเปียกปอน อดไม่ได้ที่จะวิตกกังวล ในหน้าหนาวเยี่ยงนี้ มันไม่ใช่ฤดูที่จะมาเล่นน้ำ
“ขาท่านย่าบาดเจ็บรุนแรง ข้ากับท่านแม่ไม่มีเงินไปเชิญท่านหมอ ได้แต่ขึ้นเขาไปหาสมุนไพร ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของท่านย่าให้ทุเลา” มู่หยุนเหยาหลุบตาต่ำ สีหน้ามีความผิดหวัง “ข้าจำได้ว่าหลังเขามีลำธารอุ่นที่นั่น น่าจะมีสมุนไพรสดๆอยู่ แต่ไม่ทันระวังตกลงไปในน้ำ…”
“เธอช่างเป็นเด็กน้อยที่มีน้ำใจจริงๆ กลับกันย่าของเธอนั้นช่างไร้หัวใจ ไป ข้าไปดูเป็นเพื่อนเธอ เธอกับแม่ตัวเล็กคงขยับร่างนางไม่ไหว”
“ขอบน้ำใจท่านป้าหยางมาก”
พอเดินมาถึงประตูบ้าน ก็ได้ยินเสียงด่าทอของหลี่ซื่อขึ้น
“นังหญิงชั้นต่ำ นังอสรพิษ ฆ่ามีดพันเล่ม ให้แกป้อนน้ำให้ข้าดื่ม แกกลับทำหกใส่ตัวข้า ไม่หัดใช้สมอง ทำไมแกไม่ตายตายไปในกองไฟซะ ให้ดีที่สุดถ้าได้เผาหน้านั้นของแกเสีย จะได้ไม่ต้องอยู่ไปยั่วยวนผู้ชายไปทุกที่! เฉิงเอ๋ออา ลูกด่วนจากไปปล่อยแม่แก่ๆคนนี้ไว้คนเดียว ทิ้งให้อยู่อย่างยากลำบากกับเมียแก….”
มู่หยุนเหยารีบวิ่งเข้าไปในห้อง เห็นหลี่ซื่อหยิกแม่ของนางระบายอารมณ์ ที่ต้นแขนท่านแม่ปรากฏรอยช้ำจากการหยิกอย่างรุนแรง นางกำหมัดแน่น สั่นไปทั้งตัว
หยางซื่อรีบไปขวางข้างหน้า ปัดมือของหลี่ซื่อออกไป มองซูชิงด้วยสายตาเห็นเหล็กไม่เป็นดั่งเหล็กกล้า (ผิดหวังต่อความไม่เอาถ่านของคนที่คาดหวังไว้) “นางหยิกเธอ เธอวิ่งหนีไม่ได้เหรอ? ตอนนี้นางเป็นอัมพาตบนเตียง ยังจะไล่ตามเธอได้?”
“พี่หยาง ข้า…” ซูชิงน้ำตาเอ่อคลอ
หลี่ซื่อเสียงแหบด่าจบไม่น่าฟัง “อา สุนัขที่ไหนมายุ่งเรื่องชาวบ้าน ไปไล่จับหนูที่บ้านแกซะ ซูชิงกับผู้ชายของแกมีอะไรกันแล้ว แบบนี้แกยังจะปกป้องนาง? กินไชเท้าแล้วยังมากังวลเรื่องเค็ม (กินไชเท้าที่จืดแต่กลับต้องมาคอยพะวงความเค็มของเกลือ = ยุ่งเรื่องชาวบ้าน) มันไม่ใช่เรื่องของแก!”
หยางซื่อฟังแล้วอยากจะตบออกไป “ท่านก็สงบปากสงบคำหน่อย มีการใส่ร้ายแบบนี้กับลูกสะไภ้ตัวเองด้วยเหรอ?”
“เรื่องที่แกต้องดูแลเกินหน้าเกินตามาก ลูกสะไภ้บ้านข้า ข้าจะจัดการแบบไหนก็เรื่องของข้า ทีแกไก่ไม่ออกไข่แต่ดันร้อง มีเวลามาพูดจาไร้สาระที่นี่ ไปวางไข่ ไม่ต้องทำเรื่องไร้ประโยชน์ ขากถุย!”
(คำด่า : หญิงที่ไม่มีลูกแต่บอกว่ามี)
หยางซื่อแต่งงานแล้วหลายสิบปียังไม่มีทายาท เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นางเจ็บปวดอยู่ในใจ วันนี้ถูกหลี่ซื่อเจตนากล่าวร้าย โกรธจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว
มู่หยุนเหยารีบไปข้างหน้าดึงมือหยางซื่อ “ท่านป้า ท่านย่านาง… ขออภัยท่าน ท่านกลับไปก่อนเถิด”
หยางซื่อโกรธจนปากสั่น สักพักจึงค่อยๆอดกลั้นอารมณ์ลง “นังหนูหยุนเหยา พวกเธอ… พวกเธอไม่ต้องเกรงใจ ถึงแม้จะเป็นเรื่องในครอบครัว แต่ข้าต้องพูดเพื่อความยุติธรรม”
มองบาดแผลหลี่ซื่อ ที่ได้รับการจัดการอย่างเรียบร้อยแล้ว หยุนเหยายังขึ้นเขาไปหาสมุนไพรแต่เช้า ปฏิบัติต่อหลี่ซื่อเยี่ยงนี้ถือว่าทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่หลี่ซื่อหญิงชราผู้นี้ ไม่คาดคิดว่าจะไม่รู้ผิดชอบชั่วดีขนาดนี้!
มู่หยุนเหยากัดริมฝีปาก สายตาเต็มไปด้วยความมืดหม่นและปวดร้าว “ท่านพ่อเคยสั่งสอนไว้ ความอับอายในบ้านอย่าให้แพร่ไปข้างนอก ดังนั้น…”
เห็นนางเป็นแบบนี้ หยางซื่อได้แต่รู้สึกปวดร้าวในใจ “เธอ ช่าง...อา… เรียบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อย่าให้เป็นหวัดหละ”
“อา ขอบคุณท่านป้า”
รอจนหยางซื่อกลับไป สีหน้าความรู้สึกผิดกับความอึดอัดของมู่หยุนเหยาหายไปภายในพริบตา นางหันคอมองดูหลี่ซื่อ ทันใดนั้นก็แสดงรอยยิ้มที่วิจิตรบรรจง “ท่านย่า ท่านชอบหยิกแขนคนอื่นเยี่ยงนี้ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนนิสัยแล้ว”
หลี่ซื่อถูกรอยยิ้มของนางจนใจสั่น “แก แกมันหญิงชั้นต่ำ แกจะทำอะไร?”
มู่หยุนเหยาเอากะลังมังใส่น้ำจากมือซูชิงเข้าไปในห้องครัว แล้วเอาเกลือโรยลงไปแล้วราดลงไปบนขานาง หลี่ซื่อมองด้วยสายตาตกใจจนเนื้อเต้น
“อา! นังชั่ว มู่หยุนเหยา นังสารเลว ข้าจะฆ่าแก ฆ่าแกกก!”
มู่หยุนเหยาใบหน้ายังคงยิ้มอย่างสงบ “ท่านย่า นิสัยการด่าคนของท่านก็มีปัญหา คงต้องแก้ไขแล้ว ไม่อย่างนั้นข้าไม่ระวังทำน้ำร้อนหกใส่ตัวท่าน ท่านจะทำยังไง?”
“แกกล้า?” หลี่ซื่อเบิกตาโต นั่งชั่วคนนี้ กล้าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร่?
“ฮ่า ฮ่า” มู่หยุนเหยาหัวร่อออกมา น้ำเสียงคมชัดและนุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความโหดเหี้ยมอย่างบอกไม่ถูก “จนถึงตอนนี้แกยังไม่ดูสถานการณ์ไม่ออก ตอนนี้ ข้าเป็นมีดสังหาร ส่วนแกเป็นเนื้อปลา (สั่งเป็นตายได้) คิดจะฆ่าแก ยังง่ายดายกว่าขยี้มดจนตาย”