ตอนที่ 15 ส่งท่านลงนรก
“แก แกคิดจะทำอะไร?” หลี่ซื่อร้องเสียงแหลม แต่เหมือนหมาดีแต่เห่า
“วางใจได้ ยังจัดการกับเศรษฐีจางไม่เรียบร้อยดี แกยังไม่เป็นอะไรหายห่วง”
หลี่ซื่อแอบกลืนน้ำลายโดยไม่ได้ตั้งใจ หันไปจ้องมองซูชิง “นังตัวซวย ทำไมแกไม่ดูแลมัน?”
มู่หยุนเหยาตัวสั่น รีบหันมองไปทางซูชิง ในใจนางเต็มไปด้วยความคิดชั่วร้ายจนลืมคิดถึงจิตใจของท่านแม่ ท่านจะนึกตำหนิตัวเองไหม?
เห็นมู่หยุนเหยาวิงวอนด้วยสายตาที่อบอุ่น ใจของซูชิงก็ละลาย “เหยาเอ๋อเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ เป็นเพราะท่านแม่บังคับนางให้ต้องทำแบบนี้ เหยาเอ๋อไม่ต้องกลัว แม่สนับสนุนลูก ไม่ว่าลูกจะทำอะไร แม่จะคอยสนับสนุนลูกทุกอย่าง”
มู่หยุนเหยาโผล่เข้าอ้อมแขนซูชิง ถูไถกับอ้อมแขนของนางที่คุ้นเคย อ้อมแขนที่อบอุ่น อ่อนโยน เหมือนกับพร้อมให้อภัยนางทุกอย่าง “ท่านแม่ มีท่านอยู่ด้วยดีที่สุด”
“เด็กโง่”
จากบ้านหลี่ซื่อ หยางซื่อร้องไห้ตลอดทาง ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อย หลังถามไถ่จนรู้ต้นสายปลายเหตุ ต่างเพิ่มความเกลียดชังต่อหลี่ซื่อมากยิ่งขึ้น ในชนบทนั้นไม่ใช่ไม่มีแม่ผัวใจร้าย แต่ใจร้ายเท่าหลี่ซื่อนี้ นับได้ว่ามีแค่คนเดียว
อีกด้านหนึ่ง ณ เมืองหย่งอาน เศรษฐีจางร้อนรนอย่างวิตกกังวล เขาตกลงกับหลี่ซื่อซื้อตัวซูชิงกับมู่หยุนเหยาเรียบร้อย แต่มารู้ข่าวทีหลังว่า บ้านตระกูลมู่ถูกไฟไหม้ หลี่ซื่อก็มาขาหัก ไม่ใช้แผนว่าของเขาต้องมาดับวูบไป!
ระหว่างที่กำลังเดินวนไปมานั้น พ่อบ้านติ่งซานเดินเข้ามา ในมือถือจดหมายหนึ่งฉบับ “นายท่าน รีบดู”
“ยามจื่อ ค่ำวันนี้ ในหมู่บ้านตะวันตก อักษรคือกุ้ยเหริ่น….กุ้ยเหริ่น นี้ หมายถึงอะไร” เศรษฐีจางขมวดคิ้ว
(** ยามจื่อ คือ 23:00-1:00 )
“กุ้ยเหริ่นนี้… อา เป็น ซู! ตัว ซู กุ้ยเหริ่น ก็เป็น ตัว ซู นั่นเอง! นายท่าน น่าจะเป็นแม่นางซูชิงส่งมาแล้ว…”
พอได้ยินซูชิง เศรษฐีจางเผยอยิ้มออกมา “ใช่แน่นอน ใช่แล้ว” พอคิดถึงรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นของซูชิง เศรษฐีจางเกือบน้ำลายไหล ซ้ำยังมีมู่หยุนเหยา ที่มีผิวพรรณเต่งตึง นุ่มนวลยิ่งกว่าเต้าหู้ ผิวเรียบเนียนละเอียดละออ
“ยามจื่อ ยามจื่อ เอาเสื้อผ้าที่ดีที่สุดของบิดาออกมา ค่ำคืนนี้บิดาจะลักหยกขโมยบุผฝา!”
มู่หยุนเหยาเอาสมุนไพรมาบดเป็นผงอย่างตั้งอกตั้งใจ หลังจากนั้นห่อด้วยผ้าเช็ดหน้า
“เหยาเอ๋อ ลูกกำลังทำอะไร?” ซูชิงมองไปที่สมุนไพร ที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน
“ท่านแม่ ข้าหิวแล้ว ท่านไปทำอะไรให้ข้ากินหน่อย” มู่หยุนเหยาหันไปกอดที่เอวซูชิง ถูไถในอ้อมแขนนาง น้ำเสียงอ่อนโอนดั่งเด็กเอาแต่ใจ
“ได้ งั้นแม่ไปก่อน”
หลี่ซื่อตัวร้อนไปทั้งตัว น้ำเสียงตอนนี้แหบแห้ง “ซูชิง เอาน้ำให้ข้าหน่อย!” กล่าวจบเห็นมู่หยุนเหยาไร้การตอบสนอง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก
ซูชิงถือน้ำอุ่นแก้วนึง คิดจะยื่นให้หลี่ซื่อ แต่ถูกมู่หยุนเหยาหยุดไว้กลางทาง “ท่านแม่ ท่านทำไมรู้ว่าข้าหิวน้ำ รีบไปทำกับข้าวเถอะ ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว”
“มู่หยุนเหยา แกอยากให้ข้าหิวน้ำตาย?”
“อยากดื่ม ก็มารินเอง!” ในใจมู่หยุนเหยาสุมทรวงไปด้วยความเกลียดชังฝังเข้ากระดูก ถ้าหากไม่ใช่เพราะนาง แม่ของนางคงไม่ต้องตายอย่างอนาทขนาดนั้น! และหลังจากที่ขานางหัก หลี่ซื่อก็กระทำกับนางแบบเดียวกัน ไม่ว่านางจะวิงวอนร้องขอเยี่ยงไร ก็ไม่ยอมให้น้ำนางแม้แต่น้อย แม้แต่ข้าว ก็เป็นของเน่าเสีย อีกทั้งนางยังโยนไปบนพื้น ให้นางคลานไปหยิบกินเหมือนหมา จนถึงตอนนี้นางยังจำได้ดี ซ้ำหลี่ซื่อยังหัวเราะนางอย่างสะใจ
“แก…” หลี่ซื่อคิดจะด่า แต่ถูกมู่หยุนเหยายิ้มเยาะ นางเลยต้องกลืนคำพูดเข้าไป
มู่หยุนเหยาหัวเราะเลือดเย็น คิดจะรับมือกับคนอย่างหลี่ซื่อ นางต้องมีใจโหดเหี้ยมมากกว่า นางค่อยๆถูผงยาบนมือนาง แววตานิ่งสงบดั่งน้ำนิ่งไร้คลื่น
ความสามารถด้านศาสตร์สมุนไพรของนางนั้นเกิดขึ้นหลังจากนางเข้าไปในวังจินอ๋อง นางได้เรียนกับแม่นางพิษ แขกของวังจินอ๋องมีมากมาย แต่เป็นสตรีนั้นมีนางเพียงหนึ่ง นางมักจะร้องเพลงบทกวี ซึ่งเหมาะเจาะกับสถานการณ์ในตอนนี้
“แนะนำท่านดื่มสุราสักจอก ดื่มเต็มที่ให้กับความทุกข์ หัวเราะเยาะให้กับท่าน ใบมีดที่ยิ้มอย่างอ่อนโยน ดั่งน้ำตาของดอกชบา ส่งท่านไปสู่นรกยามเที่ยงคืน อย่าคิดเรียกร้องความยุติธรรมเมื่อท่านไปยังนรก เบื้องหลังคุณเป็นภูเขากองกระดูกคนตาย วันนี้ประกาศความแค้นในอดีต อย่าทำให้วิญญาณอาฆาตพยาบาทในยามเที่ยงคืนยิ้ม….”
คืนนี้ นางก็จะส่งคนไปลงนรก!